บทนำ
สมาธิกับการดำรงชีวิตประจำวัน
โดย
พระมหาอดิศักดิ์ อภิปญฺโญ วัดบรมสถล(วัดดอน) สาทร กรุงเทพมหานคร
บทนำ
ศาสนาที่ยิ่งใหญ่ส่วนมากต่างเน้นถึงความสำคัญของสมาธิในฐานะเป็นหนทางไปสู่ความบริสุทธิ์แห่งจิต การศึกษาในพระพุทธศาสนามีหลักของไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา พระพุทธเจ้าได้ตรัสให้ภิกษุศึกษาปฏิบัติในสมาธิว่า สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ, สมาหิโต ภิกฺขเว ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาติ[1] แปลว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเจริญสมาธิเถิด ภิกษุผู้มีจิตตั้งมั่นย่อมรู้ชัดได้ตามความเป็นจริง การฝึกสมาธิ เป็นกิจที่จำเป็นสำหรับทุกคน ไม่จำกัดว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่จำกัดว่าจะประกอบอาชีพใด ๆ เพราะการฝึกสมาธิ ก็คือการบริหารจิตเพื่อให้จิตมีพลังเข้มแข็ง และเพื่อให้จิตมีสุขภาพดีอยู่เสมอเช่นเดียวกับการบริหารทางร่างกาย ผู้ที่ไม่ได้หมั่นออกกำลังกาย ร่างกายย่อมอ่อนแอเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายฉันใด ผู้ที่ไม่ได้หมั่นฝึกสมาธิไว้เสมอทุก ๆ วัน จิตก็ย่อมจะอ่อนแอ ตกเป็นทาสอารมณ์ได้ง่าย และจะหาความสงบสุขในทางจิตใจได้ยาก ฉันนั้น
ที่จริงการฝึกสมาธิ ไม่ใช่งานที่ยากจนเกินไปเว้นไว้แต่ว่าเราจะฝึกในขั้นสูงคือในขั้นฌาน จึงจะเป็นสิ่งที่ยากมากและน้อยคนที่จะก้าวไปถึง แต่การฝึกสมาธิที่ผู้เขียนจะกล่าวไว้ในบทความนี้ เป็นแบบง่าย ๆ เพื่อให้คนทั่วไปปฏิบัติตามได้ และเพื่อให้ได้ผลในด้านการศึกษา การงาน และในอาชีพต่าง ๆ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนเข้าใจไว้ก่อนว่า ผู้เขียนไม่คิดที่จะชวนท่านเข้าป่า หรือชวนให้ละทิ้งการงาน แล้วตั้งหน้าตั้งตามาฝึกแต่ในเรื่องสมาธิอย่างเดียว